อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล จันทบุรี

ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวเมืองจันทบุรี สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดก็คือ โบสถ์คาทอลิกจันทบุรี หรือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เป็นโบสถ์คริสต์คาทอลิกเก่าแก่ที่มีความสวยงามมาก ถือว่าเป็น Unseen แห่งหนึ่งของเมืองจันทบุรีเลย ที่ตั้งของโบสถ์นี้อยู่ในตัวเมืองจันทบุรี บริเวณชุมชนริมน้ำจันทบูร

ที่มาของการสร้างโบสถ์แห่งนี้เริ่มจากชาวคาทอลิกเวียดนามจำนวน 120-130 คน ที่อพยพหนีการเบียดเบียนทางศาสนาในโคชิน มาตั้งรกรากอยู่ที่จันทบุรี และได้ร่วมมือกับคุณพ่อเฮิ้ต โตแลนติโน สร้างโบสถ์ไว้เป็นศาสนสถาน โบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2254 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี เป็นโบสถ์ขนาดเล็ก ต่อมามีความวุ่นวายเกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวคริสต์คาทอลิกแยกย้ายกระจัดกระจายกันไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2295 ชาวคริสต์คาทอลิกก็ได้กลับมารวมตัวกันใหม่ และได้สร้างโบสถ์ใหม่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรี (สถานที่ตั้งในปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 2377

ในปี พ.ศ. 2446 ได้ก่อสร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้น (โบสถ์หลังที่ 5) ให้มีขนาดใหญ่กว่าหลังเก่าเพื่อรองรับกับจำนวนคริสตศาสนิกชนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิค ภายในตกแต่งด้วยกระจกสีที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นภาพนักบุญต่างๆ ซึ่งมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นได้มีการบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนถึงปี พ.ศ. 2528 ได้มีการจัดงานฉลองโบสถ์คาทอลิกจันทบุรีครบรอบ 75 ปี ขึ้นในปีดังกล่าวด้วย นับได้ว่าโบสถ์คาทอลิกแห่งนี้เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความเก่าแก่และกล่าวกันว่ามีความงดงามมากที่สุดในประเทศไทย

เนื่องจากว่าที่ตั้งของอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล อยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูร แนะนำว่าให้จัดโปรแกรมเดินเที่ยวตั้งแต่ถนนสุขาภิบาล แล้วค่อยเดินข้ามฝั่งแม่น้ำจันทบุรีมายังอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ระหว่างทางมีตึกเก่าให้ชม

ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการมาถ่ายรูปจะเป็นช่วงบ่าย เนื่องจากว่าไม่ย้อนแสง ถ่ายรูปออกมาแล้วเห็นรายละเอียดสวย ในช่วงบ่ายโบสถ์จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายในได้ในเวลา 13.00 – 16.30 น. ยกเว้นว่าวันไหนมีพิธีแต่งงานก็งดเข้าชม ส่วนด้านนอกสามารถถ่ายรูปได้ตลอดเวลา

ยอดโดมปลายแหลมอาสนวิหารฯ เคยถูกถอดออกเมื่อสมัยพิพาทอินโดจีน พ.ศ.2483 เพื่อไม่ให้เป็นเป้าหมายในการโจมตีทางอากาศ และได้นำยอดโดมมาใส่อีกครั้งในปี พ.ศ.2552 เนื่องในโอกาสฉลองอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล 100 ปี

อนุสาวรีย์พระนางมารีอา หรือ พระแม่มารีย์ พระมารดาของพระเยซูในศาสนาคริสต์

ที่ใต้โดมฝั่งขวาจะมีนาฬิกาโบราณอยู่ ติดตั้งในปี พ.ศ. 2452 เป็นนาฬิกาขนาดใหญ่ มีเส้นรอบวงถึง 4.7 เมตร สามารถมองเห็นได้ไกลระยะ 2 กิโลเมตร

ภายในอาสนวิหารฯ ตกแต่งสวยแบบโบสถ์ในยุโรป มีซุ้มโค้งตามเสา หลังคาสูง สลักลวดลายที่ฝาผนัง

รอบตัวโบสถ์ประดับด้วยกระจกสี “สเตนกลาส” เป็นรูปนักบุญ ให้แสงผ่านเข้ามาในตัวโบสถ์ได้ กระจกสีเหล่านี้เป็นของเก่าแก่ติดตั้งในปี พ.ศ. 2455 – 2457

กระจกสี “สเตนกลาส”

ส่วนที่สวยที่สุดของโบสถ์ด้านในจะเป็นบริเวณเวทีด้านหน้า ประดับด้วยรูปปั้นพระนางมารีอา นักบุญ และไม้กางเขน อันเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์

แม่พระประดับพลอย ที่หน้าแท่น เป็นรูปปั้นพระแม่มารีย์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมาก มีการประดับพลอยที่รูปปั้นถึง 2 แสนเม็ด 2 หมื่นกะรัต มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และยังประดับด้วยทองคำ เงิน ในส่วนต่างๆ ของชุด ที่ฐานด้านล่างจะเห็นแม่พระกำลังเหยียบงู อันหมายถึงมาร สิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://www.emagtravel.com/archive/chantraburi-church.html

 

Comments

comments

Open chat
Hello
Can we help you?
สายด่วนโทรเลยครับ