บินสานฝัน

โคลงการบินสานฝันให้คนไทยรักกันถวายพ่อหลวง

เมื่อนานมาแล้ว วันที่ 8ธันวาคม ปี 2551 พวกเราได้ทำการบินสานฝันเพื่อคนไทยรักกันถวายแต่พ่อหลวง

เป็นกิจกรรมที่ร่มบินทำกันครั้งแรกของไทย

พวกเราไปรวมตัวกันที่เชียงใหม่แล้วเริ่มบินกันที่เชียงใหม่มุ่งสู่พัทยาเป็นการกระทำครั้งแรกของพวกเรา

การบินครั้งนี้สนุกมากเราจำมันจนวันตาย

เรื่องราวบินสานฝันที่พี่สมศักดิ์ไปถ่ายทำครับ คลิกเข้าไปดูได้เลยครับ

7ธันวาคม จากนครสวรรค์สู่ชัยนาท

เพื่อนร่มบินนครสวรรค์ออกมาต้อนรับและบินมาส่งเราที่ชัยนาท สนุกมากครับ

8ธันวาคมจากสนามบินบางประหันสู่อยุธยาครับ  แวะที่งานอยุธยาด้วยครับ กลุ่มอยุธยาออกมาต้อนรับเราสนุกมากสมัยกอ่นยังไม่มีเฟรชบุคยังไม่มีไลท์ถ้าสมัยนี้จะสนุกเป็นสามสิบเท่า

 

เช้าวันที่6ธันวาคมที่อ.เถินครับ สนุกมากครับ

 

 

วันที่15 ธันวาคมบินจากไร่องุ่นมาพัทยา

 

รับสมัครงาน

รับสมัครงาน

ใครว่างงานล๔หหลานใครไม่มีงานทำโทรมาหาเรา ขอคุณมีสองมือ ทุกอย่างเราสอนให้ เครื่องมือไม่มีเราเตรียมให้ ขอคุณตั้งใจทำงานรับเงินไปเลย

โทรหาเรา 061-8968999

กล้อง

ขายกล้องแอคชั่นแคม

กล้องติดรถยนต์และ จยย.

15310421_1384655124899833_1859671640_n

คุณสมบัติพิเศษ วีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 10 fps / 2.7 K 15 fps ภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง ขนาด 170 องศา มีหน้าจอสี LCD ขนาด 2.0 นิ้ว ดูวีดีโอหรือภาพนิ่งได้ทันทีในกล้อง แบตเตอรี่ ขนาด 1050 mAh สามารถใช้งานได้นานกว่า 50 นาที มีไวไฟ ( Wi-Fi ) ในตัว ทำให้สามารถสั่งงานแบบไร้สาย โหลดภาพเข้ามือถือได้อย่างรวดเร็ว Waterproof Housing สามารถดำน้ำที่ความลึกสูงสุดถึง 30 เมตร สามารถใส่เมมโมรี่ได้ถึง 32GB Input / Outpaut : Micro Usb / HDMI สามารถตั้งอัตโนมัติ วนทับต่อเนื่องได้

สนใจโทร 086-3591744   ตุกตา  line Id:Tukkatakitty

 

วันครอบครัว

วันครอบครัว

เครือคูณ

20130127_111127

นายแกละ เครือคูณ

ลำรึกถึงพ่อ

นายแกละ เครือคูณ เป็นลูกชายคนโต ของนาง ใจ เครือคูณ  นายทร เครือคูณ

นายทอน เครือคูณ หรือปู่ทร นาม สกุลเดิม เชื้อพันธุ์

นางใจเครือคูณเป็นลูกของตาวีกายเพร็ช และนางพริ้ง กายเพร็ช เดิมมาจากจันทร์บุรี

ตาวีกายเพร็ช กับยายเปลี่ยน

ยานเปลี่ยนเป็นเมียคนที่สองหลังจากยายพริ้งเสียชีวิต

ยายเปลี่ยนก็ออกลูกหลานมาทั้งหมู่บ้านคุณฉลอง หรือบ้านยวน

มาเป็นต้นตระกูลสยาม

ตาวี เป็นคนจันทร์บุรี เป็นคนคริสต์ กับย้ายพริ้ง

บ้านอยู่ข้างโบถคริสจันทร์บุรี จากการสืบค้นเป็นกลุ่มคนญวนอพยพมาอยู่ที่จันทร์บุรี

พ่อแกละ เป็นคนลพบุรี บุตร นางใจ นายทร ได้แต่งงานกับนางมะลิเทศวงค์คนเขาสมอคอนอำเภอท่าวุ้ง จ.ลพบุรี บเานแม่อยู่ที่เขาสมอคอน เทือกเขาแห่งราชะ

ย่าใจและปู่ทร

ย่าใจและปู่ทรเป็นบิดามารดาของนายแกละเครือคูณ นายทรเป็นคนอำเภอ กันทรลักษ์ จ. ศรีษะเกศ

ย่าใจเป็นคนตริสต์ถือตามบิดามารดา มาแต่งงานกับปู่ทร ปู่ทรเป็นลูกจ้างตาวีเพื่อหาปลาเป็นคนขยันขันแข็ง ตาวีจึงยกลูกสาวให้ มีบุตรและธิดา สี่คน

ได้ก่พ่อแกละ    อาขอม   อาเอียง   และอาหนับ

พ่อแกละ สีชีวิตรแล้ว และอาหนับ

พ่อแกละ แต่งงานกับนางมะลิ เครือคูณ (เทศวงค์)

บ้านเขาสมอคอนเป้นต้นตระกูลสยาม  ต้นกำเหนิดมหาวิทยาลัยแห่งราชะ

(ที่เขาสมอคอนจะมาอาจาร สกุลตฤษี เป็นผู้มีความรู้ สอน เจ้าเมืองต่างๆเช่นพ่อขุนรามคำแหง พ่อขุนผาเมือง  พระนาราย

บ้านแม่จะอยู่ติดกับเขาลูกนั้นเลยเป็นต้นตระกูลที่สู้กับพม่าและเป็นคนที่นั่น

 

 

ครอบครัวของเราจะรวมตัวกันที่โบถ คริสตร์ เซ็นต์ นิโคลัส พัทยา

พี่หวาน

560777_544910892201611_903655467_n

นางสาวหวานใจ เครือคูณ

 

หวานใจเครือคูณบุตรสาวของนายแกละเครือคูณwanawing

ฝังอยู่ที่โบถนิโคลัสพัทยา

นางสาวหวานใจเครือคูณ มีบุตร สองคน

peewan

ฉอยหลุดและฟัต จ่ายใจ๋   หลุย

บทข้าพเจ้าเชื่อจากสังคายนานิเชอา คอนสแตนติโนเปิลกล่าวไว้อย่างไร
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว
พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้าทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
เป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ มิได้ทรงถูกสร้าง แต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด
พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์ พระองค์ทรงรับเอากายจากพระนางมารีย์พรหมจารี
ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนติอัส ปีลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา
พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้ ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์
เสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
รัชสมัยของพรัองค์จะไม่มีสิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต
ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร
พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ข้าพเจ้าเชื่อว่ามีพระศาสนจักรหนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก
ข้าพเจ้าประกาศยืนวันว่ามีศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ และคอยชีวิตในโลกหน้า อาแมน

 

 

ดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต. อาแมน

บทร้องหาพระจิต
ก. เชิญเสด็จมา พระจิตเจ้าข้า
ร. เชิญมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ* และบันดาลให้เร่าร้อนด้วยความรักต่อพระองค์
ก. โปรดส่งพระจิตของพระองค์* และสรรพสิ่งจะอุบัติขึ้นมา
ร. แล้วพระองค์จะนิมิตแผ่นดินขึ้นใหม่.

เราจงภาวนา
ข้าแต่พระเป็นเจ้า* พระองค์ทรงสอนใจสัตบุรุษด้วยความสว่างของพระจิต* ขอให้เราซาบซึ้งในความเที่ยงตรงด้วยพระจิตนั้น* และให้ได้รับความบรรเทาจากพระองค์เสมอ* เดชะพระสวามีคริสตเจ้า. อาแมน

บทข้าแต่พระบิดา
ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย* พระองค์สถิตในสวรรค์* พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ* พระอาณาจักรจงมาถึง* ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์

ขอประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้* โปรดยกโทษข้าพเจ้าเหมือนข้าพเจ้ายกให้ผู้อื่น* อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าถูกผจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นภัย. อาแมน

บทวันทามารีอา
วันทามารีอา* เปี่ยมด้วยหรรษทาน พระสวามีสถิตกับท่าน ผู้มีบุญกว่าหญิงใดๆ* และพระเยซู โอรสของท่านทรงบุญนักหนา.

สันตะมารีอา มารดาพระเจ้า* โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน.

สิริ
ก. สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิต
ร. เหมือนในปฐมกาล บัดนี้ และทุกเมื่อ ตลอดนิรันดร อาแมน.

ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า* พระบิดาทรงสรรพานุภาพ สร้างฟ้าดิน* เชื่อถึงพระเอกบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา* ปฏิสนธิ เดชะพระจิต บังเกิดจากพระนางมารีอาพรหมจารี* รับทรมานสมัยปอนซีโอปีลาโต ถูกตรึงกางเขน ตายและฝังไว้* เสด็จลงใต้บาดาล วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย* เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพ* แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย

ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้า* พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ สากล* สหพันธ์นักบุญ* การยกบาป,* การคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดร. อาแมน.

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

พระบัญญัติพระเป็นเจ้า

(หน้า ๖๒)

๑. จงนมัสการพระสวามี พระเป็นเจ้าผู้เดียวของเจ้า
๒. อย่าออกนามพระสวามีพระเป็นเจ้า โดยไม่สมเหตุ
๓. วันพระเจ้า อย่าลืมฉลองเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
๔. จงนับถือบิดามารดา
๕. อย่าฆ่าคน
๖. อย่าทำอุลามก
๗. อย่าลักขโมย
๘. อย่าใส่ความนินทา
๙. อย่าปลงใจในความอุลามก
๑๐. อย่ามักได้ทรัพย์ของเขา.

พระบัญญัติพระศาสนจักร
๑. จงฟังมิสซา และอย่าทำงานในวันอาทิตย์ และวันฉลองบังคับ
๒. จงอดอาหาร และอดเนื้อ ในวันบังคับ
๓. จงรับศีลแก้บาปอย่างน้อยปีละครั้ง และจงรับศีลมหาสนิทอย่างน้อยปีละครั้ง ในกำหนดปาสกา
๔. จงบำรุงพระศาสนจักรตามความสามารถ.

~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

(หน้า ๖๓ – ๖๕)

ข้าพเจ้าขอสารภาพ
ข้าพเจ้าขอสารภาพ ต่อพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และต่อพี่น้องด้วย ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย, วาจา, ใจ และด้วยการละเลย ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป (ข้อนอก เพียงครั้งเดียว)

ดังนั้นขอพระนางมารี ผู้เป็นพรหมจารีเสมอ* ขอเทวดา, นักบุญทั้งหลาย และพี่น้องด้วย ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้า เพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ.

บทแสดงความเชื่อ
ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในความจริงทุกข้อ* ที่พระองค์ไขแสดง และที่พระศาสนจักรสั่งสอน* ทั้งนี้เพราะพระองค์ไม่รู้จักหลง ทั้งไม่รู้จักหลอกลวง. อาแมน

บทแสดงความไว้ใจ
ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าไว้ใจมั่นว่า* เดชะพระบารมีของพระเยซูคริสตเจ้า* พระองค์ประทานพระหรรษทานแก่ข้าพเจ้าในโลกนี้.* และสันดิสุขนิรันดรในโลกหน้า* ทั้งนี้เพราะพระองค์สัญญา และถือตามเสมอ. อาแมน

บทแสดงความรัก
ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจยิ่งกว่าสิ่งทั้งปวง* เพราะพระองค์เป็นความดีงาม และทรงน่ารักหาที่สุดมิได้* และเพราะรักพระองค์ ข้าพเจ้ายังรักผู้อื่น เหมืีอนรักตัวข้าพเจ้าเอง. อาแมน

บทแสดงความทุกข์
ข้าแต่พระเป็นเจ้า* ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจที่ได้กระทำบาป* เพราะบาปเรียกร้องอาชญาของพระองค์* แต่เป็นต้นเพราะมันทำเคืองพระทัยพระองค์ ซึ่งดีและน่ารักยิ่งนัก* เดชะพระหรรษทานช่วย ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่า* จะไม่ทำบาปอีกเลย ทั้งจะอุตส่าห์ใช้โทษ* ขอทรงพระกรุณายกบาปแก่ข้าพเจ้า ด้วยเถิด. อาแมน

โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า
โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า* ชาวเราหลบมาพึ่งท่าน* โปรดอย่าเมินเฉยต่อคำวิงวอนในยามทุกข์ร้อนของเรา* แต่โปรดช่วยเราให้พ้นภัยทั้งสิ้นเสมอเถิด* ท่านศรีพรหมจารีผู้ทรงบุญ.

ข้าแต่อารักขเทวดา
ข้าแต่อารักขเทวดา* พระเป็นเจ้าทรงกรุณามอบข้าพเจ้าไว้ในอารักขาของท่าน* โปรดส่องสว่าง พิทักษ์รักษา และคุ้มครองข้าพเจ้า ตามทางความรอด ณ วันนี้ (ณ คืนนี้) ด้วยเทอญ. อาแมน.

ก่อนอาหาร
พระเจ้าข้า* โปรดอวยพรแก่ข้าพเจ้า และอาหารที่จะรับประทานนี้. เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต. อาแมน

หลังอาหาร
ขอขอบพระคุณ* โอ้พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ดำรงชีพและเสวยราชย์ตลอดนิรันดร. อาแมน

 

ที่บ้านจะมีน้ำมากเราจะหาปลา

 

ที่ระลึกงานเสกป่าช้าที่วัดนักบุญนิโคลัสพัทยา

ดาวน์โหลด

 

 

ซ่อมรถฉุกเฉิน

ซ่อมมรถฉุกเฉิน

โทร 086-3050805

เมื่อิรถคุณเสียเราพะร้อมไปช่วยเหลือคุณเพียงคุณโทรมาหาเราแอดไลเราแชร์โลเคชั่นมาให้เรา

94230

อันนี้เพื่อแอดงานจะไวครับ

แบตเตอร์รี่พัทยา2

 

การตั้งชมรม

ระเบียบการว่าด้วยชมรม

ชมรม

ความหมายของชมรม

หมายถึง ที่พัก, ที่ประชุม; หมู่พวก, บางทีว่า โชมโรม

หมายถึง ที่พักชั่วคราวของกลุ่มบุคคล; ที่ประชุมของกลุ่มบุคคลที่มีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์บางประการร่วมกัน เช่น ชมรมนักวรรณศิลป์ ชมรมพุทธศาสตร์ ชมรมผู้สูงอายุ เป้นต้น

ลักษณะของชมรม

ชมรม ไม่เป็นนิติบุคคล กลุ่มคิดจะตั้งก็ตั้งได้ทันที การตั้งจึงขึ้นอยู่กับสมาชิกชมรมว่าจะร่างข้อบังคับ หรือระเบียบอะไรก็ตกลงกันเอง อยากเลิกเมื่อไหร่ตกลงกันเองในสมาชิก  ชมรมควรมีจุดประสงค์ของชมรมว่าตั้งชมรมขึ้นมาเพื่ออะไร และอยากทำอะไร รวมทั้งควรประกาศจุดยืนของชมรมให้เป็นที่รู้กันในหมู่สมาชิกและสังคมภายนอก จะได้ทำงานได้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เขียนเป็นบันทึกลายลักษณ์อักษรร่างเป้นกฏบังคับ

ขั้นตอนของการจัดตั้งชมรมทั่วๆ ไปมีดังนี้

ขั้นที่ 1 เริ่มต้น
เริ่มต้นต้องหากลุ่มคนที่มีความชอบ ความสนใจในเรื่องเดียวกันก่อน ซึ่งเรื่องนี้มักไม่ใช่ปัญหา เพราะคนที่ดำริจะจัดตั้งชมรมฯ ก็มักจะมีกลุ่มคนนี้ด้วยอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรต้องลงลึกคือเรื่องของแนวคิดของกลุ่ม เพราะหากแนวคิดไม่ตรงกันแล้ว ชมรมฯถึงหากตั้งขึ้นมาก็จะไม่ประสบความสำเร็จ โดยสรุปก็คือในขั้นเริ่มต้น ต้องมีกลุ่มคนที่ทำงานเหมือน ๆ กันมาอยู่ร่วมกัน และมีเจตน์จำนงเช่นเดียวกัน การตั้งชมรมฯจึงจะเกิด
ขั้นที่ 2  จำนวนคน
กลุ่มคนตามข้อหนึ่งนั้นไม่จำเป็นต้องมีมากคือ ถ้ามีคนใจเดียวกันประมาณเพียง 10 คน ก็จะตั้งเป็นชมรมฯได้

ขั้นที่ 3  แกนนำ
จากนั้นก็ต้องเลือกคนที่จะมาเป็นแกนนำของกรรมการชมรมฯ บุคคลหลัก ๆ ในช่วงเริ่มต้นมีเพียงแค่ 2 คน คือตำแหน่งประธานและตำแหน่งเลขา(เรขาธิการ)

ขั้นที่ 4  กรรมการ

กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ได้แก่

– รองประธาน (อาจมีมากกว่าหนึ่งคน แต่ต้องใช้กับชมรมที่มีขนาดใหญ่ และทำงานมาได้ช่วงหนึ่งแล้ว และมีงานหรือกิจกรรมมากจนต้องมีรองประธานมาช่วยงาน)

–  ผู้ช่วยเลขาธิการ (เช่นเดียวกัน ใช้สำหรับชมรมขนาดใหญ่ตั้งมานานแล้วพอสมควร ถ้าเป็นชมรมขนาดเล็กหรือเพิ่งเริ่ม ตำแหน่งนี้ไม่ควรมีเพราะจะเกิดการเกี่ยงงานกันขึ้นได้)

–  บัญชี (สำหรับจัดระบบบัญชี และทำงบดุลแถลงต่อสมาชิกในการประชุมประจำปี ใช้เฉพาะสำหรับชมรมฯที่มีงานมาก และมีงบประมาณสูงเกินที่จะปล่อยไปโดยไม่ตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีโครงการที่ขอบริจาคจากประชาชนทั่วไป แต่สำหรับชมรมเล็ก ๆ แล้วไม่ควรมีตำแหน่งนี้เลย เพราะจะทำให้ยุ่งยาก หาคนมาทำงานลำบาก และจะทำให้การจัดตั้งองค์กรเกิดขึ้นไม่ได้)

– นายทะเบียน (คนนี้ก็มีบทบาทสำคัญ เพราะจะต้องเป็นคนที่รวบรวมรายชื่อของสมาชิกทั้งใหม่และเก่า และต้องปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาด้วย รายชื่อพวกนี้สำคัญมากหากชมรมอยู่ในเมืองใหญ่ เพราะจะต้องใช้สำหรับการประสานงานทั้งระหว่างมวลสมาชิกและกับบุคคลภายนอก)

– ฝ่ายนายทุน (หากต้องการทำงานให้ใหญ่ มีโครงการสนองตอบต่อสังคมได้มากตำแหน่งนี้ก็อาจจำเป็น มิฉะนั้นก็ทำงานไม่ได้)

– ประชาสัมพันธ์ (ตำแหน่งนี้สำคัญในยุคข่าวสารแบบปัจจุบัน ต้องเป็นคนที่กว้างขวางในสังคมทั้งท้องถิ่นและส่วนกลาง เพื่อที่จะได้กระจายข่าวกิจกรรมของชมรมฯให้สังคมภายนอกรู้จัก ซึ่งจะเป็นผลพวงต่อให้ฝ่ายหาทุนทำงานให้ง่ายขึ้นด้วย)

ขั้นที่ 5 กฎหมาย

ชมรมต่าง ๆ ที่มีขึ้นในประเทศไทยนี้ไม่มีฐานะทางกฏหมายทั้งสิ้น ไม่เหมือนกับสมาคมหรือมูลนิธิที่ต้องไปจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติและสำนักตำรวจแห่งชาติการตั้งชมรมจึงง่ายมาก หากหากลุ่มคนที่มีคุณสมบัติตามที่เขียนไว้ข้างต้นได้พอสมควร ก็สามารถประกาศจัดตั้งเป็นชมรมขึ้นมาได้เลย

ขั้นที่ 6 ชื่อและโลโก้

เมื่อเสร็จจากการตกลงปลงใจตั้งเป็นชมรมแล้ว ก็ต้องตั้งชื่อชมรม ซึ่งควรตรวจสอบกับวงการในวงกว้างเพื่อที่จะได้ไม่มีชื่อซ้ำซ้อนและเกิดการสับสนกันในภายหลัง จากนั้นก็ต้องหาคนที่มีฝีมือมาช่วยออกแบบสัญญลักษณ์หรือโลโก้ของชมรมฯ แต่หากไม่ต้องการความสวยงาม (เท่)ในด้านนี้ ตัวโลโก้ก็ไม่จำเป็น แต่ชื่อชมรมนั้นจำเป็นแน่เพราะไม่เช่นนั้นคนอื่น (รวมทั้งเราด้วย)ก็ไม่รู้จะเรียกกลุ่มของเราว่าอะไร

ขั้นที่ 7 จุดประสงค์

ชมรมควรมีจุดประสงค์ของชมรมว่าตั้งชมรมขึ้นมาเพื่ออะไร และอยากทำอะไร รวมทั้งควรประกาศจุดยืนของชมรมให้เป็นที่รู้กันในหมู่สมาชิกและสังคมภายนอก จะได้ทำงานได้ไม่ออกนอกลู่นอกทาง ถ้าเขียนเป็นบันทึกลายลักษณ์อักษรเลยได้ก็

ขั้นที่ 8  กิจกรรม

กิจกรรมของชมรมขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ที่ตั้งมา หากตั้งขึ้นมาเพื่อการท่องเที่ยว แต่ไปจัดกิจกรรมการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายก็คงจะผิดจุดประสงค์ไป และกิจกรรมของชมรมนี่แหล่ะจะเป็นตัวบ่งชี้อนาคตของชมรม หากตั้งขึ้นมาแล้วไม่มีกิจกรรมไปสักระยะหนึ่ง ความเป็นชมรมก็จะสลาย

ขั้นที่ 9 ข้อบังคับ

ถ้าการที่จะมีข้อบังคับของชมรมทำให้ยุ่งยากจนจัดตั้งชมรมไม่ได้ ก็อย่าไปสร้างเงื่อนไข
นี้ขึ้น เพราะเกือบทุกชมรมในประเทศไทยไม่มีข้อบังคับของชมรมแต่ก็ทำงานกันได้ ดังนั้นข้อนี้จึงไม่ใช่สิ่งจำเป็นยิ่งยวด แต่ถ้าหากสามารถจัดให้มีขึ้นได้ ก็ช่วยให้การทำงานของชมรมรัดกุม รอบคอบ และมีข้อโต้แย้งน้อยลง อย่าลืมว่าชมรมเป็นองค์กรหลวม ๆ ไม่มีกฏหมายรองรับ การไว้เนื้อเชื่อใจกันจึงเป็นหัวใจหลักของการทำงานในลักษณะนี้มากกว่าข้อบังคับที่ตั้งขึ้นแล้วไม่มีคนปฏิบัติตาม

ขั้นที่ 10  ประชุมประจำปี

การประชุมประจำปีจะจัดว่าจำเป็นก็จำเป็น จะว่าไม่ก็ไม่ ขึ้นอยู่กับขนาดและความตั้งใจจริงของชมรม แต่ถ้าเป็นชมรมใหญ่แล้วสิ่งนี้จำเป็นมาก เพราะเป็นโอกาสที่กรรมการจะแถลงผลงานให้สมาชิกทราบว่าทำอะไรไปบ้างในปีที่ผ่านไป มีการแถลงงบดุลให้โปร่งใสและให้สมาชิกทราบและซักถาม รวมทั้งมีการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ด้วย (ถ้าจะมี) ส่วนการประชุมประจำปีก็เป็นได้ทั้งอย่างมีรูปแบบ (ประชุมในห้องประชุม มีประธาน มีการแถลง มีการซักค้านฯลฯ) และแบบง่าย ๆ (กินข้าวร่วมกัน และปรึกษาหารือกัน) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของชมรม

แนวทางในการตั้งชมรมของสถาบันการศึกษาหรือของกลุ่มสมาชิกที่ต้องการร่วมทำกิจกรรชมรม
สถาบันการศึกษาเป็นสถานที่ให้ความรู้ในทางทฤษฏีและในทางปฏิบัติ สมาชิกทุกคนล้วนต้องการที่จะใฝ่หาความรู้และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม จึงจะถือว่าเป็นการเรียนรู้จากกลุ่มชมรมที่สมบูรณ์
ดังนั้นการตั้ง “ชมรม” จึงเป็นองค์กรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของกลุ่มสมาชิก

ชมรม คือ กิจกรรมที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มที่แนวคิดในการดำเนินการด้านกิจกรรมที่สอดคล้อง
หรือคล้ายคลึงกัน มีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง มีนโยบายและวัตถุประสงค์ที่แน่นอน
ซึ่งไม่ขัดกัน ต่อนโยบายขององกรณ์และสังคมหรือกฏหมาย ดังนั้นชมรมจึงเป็นอีกรูปเเบบหนึ่งของการจัดกิจกรรมในกลุ่ม ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้ทำกิจกรรม ตามความถนัดเเละความสนใจ นอกจากนี้กิจกรรมชมรม ยังเป็นประโยชน์ต่อตัวสมาชิกในการเสริมสร้างความรู้ทั้งทางด้านวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์จากการได้ทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น

หลักเกณฑ์การตั้งชมรม
เมื่อบุคคลได้รวมกลุ่มเพื่อที่จะขอตั้งชมรมแล้วนั้น การดำเนินการขอจัดตั้งชมรม
ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ชมรมต้องมีสมาชิกเริ่มก่อตั้งไม่น้อยกว่า 50 คน
2. กลุ่มผู้ประสงค์จะขอจัดตั้งชมรม ให้ยื่นแบบฟอร์มการขอรวมกลุ่มจัดตั้งชมรม
พร้อมด้วยรายละเอียดของชมรมดังต่อไปนี้
2.1 ชื่อ และวัตถุประสงค์ของชมรม
2.2รายชื่อที่ปรึกษาทางกฏหมาย
2.3รายชื่อสมาชิกที่ขอจัดตั้ง
2.4รายชื่อกรรมการบริหาร ให้ระบุตำแหน่งดังต่อไปนี้
1.ประธานชมรม
2.รองประทานชมรม
3.เลขานุการ
4.เหรัญญิก
5.นายทะเบียน
6.ประชาสัมพันธ์
7.ตำแหน่งอื่นๆที่จำเป็น

การดำเนินการขอจัดตั้งชมรม
การรวบรวมกลุ่มของสมาชิกเพื่อขอจัดตั้งชมรม กลุ่มต้องดำเนินการผ่านขั้นตอน ดังนี้
1.การดำเนินการเพื่อขอจัดตั้งชมรม ให้นำเสนอต่อสมาชิกกลุ่มทุกคน โดยผ่านคณะกรรมการบริหารและผู้ดำเนินงาน
2.การยื่นแบบฟอร์มขอจัดตั้งชมรม จะต้องทำในวันและเวลาที่คณะกรรมการของกลุ่มที่กำหนดไว้

3.เมื่อคณะกรรมการในกลุ่มลงมติให้เห็นสมควรจัดตั้งแล้ว ให้นำเสนอต่อกลุ่มเพื่อทราบและพิจารณาให้ความเห็นชอบ จึงถือว่าเป็นการจัดตั้งที่สมบูรณ์
4.นโยบายการดำเนินกิจกรรมของชมรม จะต้องไม่ขัดต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ขนบธรรมเนียบประเพณีและศีลธรรมอันดีงามของไทย ตลอดจนกฏระเบียบและข้อบังคับในข้อกฏหาย

5.วัตถุประสงค์ของชมรมที่ขอจัดตั้งใหม่ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกันกับวัตถุประสงค์ของงชมรมที่มีอยู่ก่อนแล้ว
6.ชมรมจะสิ้นสุดสภาพได้โดยเหตุใดเหตุหนึ่งต่อไปนี้
1.มีสมาชิกน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
2.ไม่มีผลงานปรากฏในรอบปีตามที่ควรจะเป็น โดยพิจารณาจากรายงานการประเมินผลการดำเนินงาน
3.คณะกรรมการบริหารชมรมเห็นสมควรให้ยุบ
4.ประธานและที่ปรึกษาเห็นสมควรให้ยุบ

ขอบคุณข้อมูลสำคัญจาก “อบรมเชิงปฏิบัติการองค์ความรู้สู่คุณธรรม.” โดย ครูวิริยา เดโช

 

อ่านพอเข้าใจนะ

Open chat
Hello
Can we help you?
สายด่วนโทรเลยครับ